วิธีหางานใหม่...ในขณะที่เรายังทำงานอยู่
เปลี่ยนงานอย่างราบรื่น ไม่ทำลายความสัมพันธ์ที่เก่า เมื่อเราอยากเติบโต วิธีการง่ายๆ ที่ใครๆ ควรรู้ก่อนเริ่มกระบวนการเปลี่ยนงาน

วิธีหางานใหม่ (เมื่อยังทำงานอยู่)?
"อยากหางานใหม่ แต่ยังไม่กล้าลาออก"
"กลัวหัวหน้าจะรู้ว่าเราหางานอยู่"
"มีเวลาน้อยมาก ทำงานวันละ 10 ชั่วโมง จะหาเวลาสัมภาษณ์ได้ยังไง?"
การหางานใหม่ขณะที่ยังทำงานอยู่เป็นศิลปะที่ต้องอาศัยความลับ ความรวดเร็ว และความชาญฉลาด
แต่ถ้าทำได้ ก็จะมีอำนาจต่อรองที่มากกว่า และไม่ต้องเสี่ยงกับการตกงาน
และนี่!! คือกลยุทธ์ที่จะทำให้สำเร็จ
ข้อดีของการหางานขณะยังทำงานอยู่
ข้อดี:
✅ มีรายได้ประจำ ไม่ต้องกังวลเรื่องรายได้ประจำ ✅ มีอำนาจต่อรอง เงินเดือนและเงื่อนไข ✅ มีเวลาเลือก ไม่ต้องรีบตัดสินใจ ✅ มีโอกาสเปรียบเทียบ งานปัจจุบันกับงานใหม่ ✅ ไม่ว่างงานแน่ๆ แม้ไม่ได้ที่ใหม่ ก็ยังมีงานเดิมอยู่
|
ข้อเสีย:
❌ มีเวลาจำกัด สำหรับการนั่งหางาน ❌ ต้องเก็บความลับขั้นสุดยอด เพิ่มความเครียดและความกังวลขั้นสุด ❌ ต้องลาไปสัมภาษณ์ อย่างแนบเนียนที่สุด ❌ ว้าวุ่นระหว่างวัน จะรับสายดีไหม คุยที่ไหนปลอดภัย
|
เริ่มเตรียมตัวแบบไม่ให้ใครรู้ ( ระยะเวลา 1-2 สัปดาห์)
1. อัพเดท Resume อย่างระมัดระวัง :
- อย่าเพิ่งประกาศกร้าวว่า "Actively looking for opportunities" ใน LinkedIn
- ทยอยอัพเดทข้อมูลให้เป็นปัจจุบัน
- ใช้โทรศัพท์ส่วนตัว และ email ส่วนตัว เท่านั้น
2. ทบทวนความสามารถตนเองและก้าวถัดไปที่อยากเป็น:
- เรียบเรียงผลงานและความสำเร็จของตนเองที่เคยทำมา โดยเน้นที่ทักษะ สกิล ความสามารถของเราที่พัฒนาขึ้นมาตลอดระยะเวลาการทำงาน และผลงานที่จับต้องเป็นตัวเลขได้ (ข้อควรระวังคือ ความลับทางธุรกิจที่ไม่ควรเผยแพร่ นอกจากจะผิดกฎหมายแล้วยังอาจทำให้บริษัทใหม่ของคุณไม่ไว้วางใจคุณในเรื่องนี้ในเรื่องความเป็นมืออาชีพ)
- เตรียมบุคคลอ้างอิง จากเพื่อนร่วมงานที่ไว้ใจได้
3. สำรวจตลาดงาน:
- เริ่มสำรวจตำแหน่งงานที่เราสนใจ หลังเลิกงาน
- จำไว้ว่าใช้เครื่องส่วนตัว ไม่ใช้คอมพิวเตอร์ของบริษัท
- ศึกษาเงินเดือนของตำแหน่งที่อยากทำ ได้จากเว็บ salary survey หรือดูตำแหน่งใกล้เคียงที่มีการเสนอเงินเดือนไว้ในประกาศงาน
- เลือกบริษัทที่น่าสนใจ และตำแหน่งที่เปิดรับเข้าลิสต์ของเรา
สมัครงานอย่างมีกลยุทธ์ ( ระยะเวลา 2-4 สัปดาห์)
4. การสมัครงานอย่างมีแบบแผน :
- สมัครงานในช่วงเย็น หรือสุดสัปดาห์ อันที่จริงเราสามารถสมัครงานได้ทุกวัน แต่ HR มักเปิด Resume ในช่วงเช้าหรือต้นสัปดาห์มากเป็นพิเศษ ดังนั้น ทุกเย็นหรือปลายสัปดาห์คือช่วงเวลาที่คุณไม่ควรพลาด
- หากตำแหน่งที่คุณมองหาเป็นตำแหน่งระดับกลาง มีประสบการณ์มากกว่า 5 ปีขึ้นไป การสมัครผ่านบริษัทจัดหางาน เป็นอีกทางเลือกที่มีประสิทธิภาพ และรักษาความลับได้ดี
- ค่อยๆ สมัครครั้งละ 2-3 งาน และ Focus กับงานที่คุณตั้งใจ
5. การจัดการเวลาสัมภาษณ์:
- ใช้วันลาพักร้อน สำหรับสัมภาษณ์สำคัญ
- ขอสัมภาษณ์ทาง video call ถ้าทำได้
6. ติดตามผลอย่างระมัดระวัง:
- ใช้เวลาหลังเลิกงาน ในการติดตาม โดยช่องทางที่เหมาะสมคือ e-mail
- ตัดสินใจให้รอบคอบก่อนยื่นใบลาออก เพราะเมื่อบริษัททราบแล้ว คุณจะเปลี่ยนใจลำบาก
สิ่งที่คุณควรทำเมื่อได้ job offer
- ไม่ต้องรีบตัดสินใจ ขอเวลาคิด 1 สัปดาห์
- สามารถเปรียบเทียบ package ทั้งหมด
- ต่อรองได้มากกว่าเงินเดือน เช่น วันลา, benefit
สิ่งที่ควรต่อรอง:
✅ เงินเดือน (เป้าหมายที่เหมาะสมคือ เพิ่ม 20-40% จากปัจจุบัน)
✅ วันเริ่มงาน (อย่าออกจากที่เก่าแบบไร้เยื่อใย ควรทำตามระเบียบที่แต่ละที่กำหนด)
✅ วันลาพักร้อน (ถ้าน้อยกว่าที่เก่า)
✅ เงื่อนไขการทำงาน (WFH, flexible time คุยกันให้ชัดก่อนเริ่มงานเพื่อลดความขัดแย้ง)
สิ่งสำคัญที่คุณต้องใส่ใจเมื่อคุณกำลังหางานใหม่
การหางานขณะยังทำงานอยู่ต้องอาศัยความอดทน และความระมัดระวัง
สิ่งสำคัญคือการทำงานปัจจุบันให้ดีไปด้วย อย่าปล่อยงานเพราะกำลังหางานใหม่
การมีงานแล้วหางานใหม่ ทำให้เรามีอำนาจต่อรองและเลือกได้มากกว่า
อย่าเผาสะพานของตัวเอง งานเก่าอาจมีประโยชน์ในอนาคต
การหางานใหม่คือการลงทุนในอนาคต ไม่ใช่การหนีจากปัจจุบัน
คุณควรเดินหน้าสู่งานใหม่ด้วยความก้าวหน้า ไม่ใช่หนีปัญหาจากที่เดิม
เพราะทุกที่ล้วนมีปัญหาที่พนักงานไม่ชอบทั้งนั้น