ทำความรู้จัก Work life balance ในรูปแบบอื่นๆ ที่ไม่ใช่แค่เรื่องการทำงานเพียง 8 ชั่วโมง พร้อมออกแบบ Work life balance แบบเฉพาะตัวสำหรับคุณที่จะชวนให้เหล่า Grower ทำความเข้าใจว่าตัวเองเหมาะสำหรับการจัดสรรเวลาแบบใด
"เมื่อ Work life balance กลายเป็นคำพูดติดหูที่ใครๆ ก็บอกว่าอยากได้อยากมี หลายคนอาจจะเคยได้ยินเรื่องการแบ่งเวลาชีวิตในรูปแบบ 8 8 8 คือทำงาน 8 ชั่วโมง พักผ่อนและการนอน 8 ชั่วโมง และใช้ชีวิตกับเรื่องอื่นๆ อีก 8 ชั่วโมง ความคิดอันนี้เลยทำให้การทำงานเกิน 8 ชั่วโมงกลายเป็นเจ้าวายร้ายของชีวิตไปซะอย่างนั้น"
ในชีวิตจริงของทุกคน มีการใช้ชีวิตกับเรื่องอื่นๆ การพักผ่อนและการนอน และการทำงาน อันที่จริงไม่ได้มีใครที่จะสามารถจัดตารางแบบ 8 8 8 ได้เป๊ะๆ แบบนั้น แต่มีการออกแบบให้เหมาะสมกับตนเองที่สุด บางคนนอนไม่ถึง 8 ชั่วโมง ก็สัดส่วนไปเพิ่มกับการใช้ชีวิตกับเรื่องอื่นๆ หรือเอาไปทบให้สัดส่วนการทำงาน และที่สำคัญตัวเราเองต้องยุติธรรมกับการแบ่งสัดส่วนในเรื่องนี้ และไม่เห็นแค่การทำงานเกินกว่า 8 ชั่วโมงเป็นเจ้าวายร้ายของชีวิตเท่านั้น ในทางกลับกัน การเบียดบังเวลานอน การลดเวลาพักผ่อน เอาไปใช้กับการทำเรื่องอื่น ๆ เช่น การไปท่องเที่ยวยามค่ำคืน การเล่น social อย่างเมามันลืมวันลืมคืน หรือการดูซีรี่ย์ ก็ควรเป็นตัวร้ายเทียบเท่ากับการทำงานเช่นเดียวกัน หากเราเชื่อว่า การทำงานเกิน 8 ชั่วโมง ทำให้สมดุลของชีวิตเสียไป
1.ช่วงหว่านพืชหวังผล อายุประมาณ 23 - 30 ปี วัยจบใหม่ไฟแรง เต็มเปี่ยมไปด้วยพลังงานและสุขภาพที่แข็งแรง
ช่วงชีวิตที่สำคัญนี้ คือ วัยรุ่นพลังงานสูง ที่ควรเก็บเกี่ยวทุกประสบการณ์ที่ผ่านเข้ามาในชีวิตการทำงาน ทดลองทำ ลงมือทำ ศึกษาหาความรู้ในเรื่องที่เกี่ยวกับงานโดยตรงและโดยอ้อม สร้าง Connection ที่สำคัญและพัฒนาความสามารถของตัวเองอย่าได้หยุดยั้ง นี่คือช่วงเวลาที่คุณจะแข็งแรงและมีพลังงานสูงที่สุดตลอดอายุการทำงานของคุณ เติมเต็มความสามารถในช่วงชีวิตนี้ของคุณอย่างเต็มที่ อย่าเพิ่งให้ความสำคัญกับการเที่ยวเล่น หรือความผ่อนคลาย สบายๆ ใดๆ หลังการทำงาน เพื่อเตรียมพร้อมสู่สนามการทำงานในอนาคต
2.ช่วงเก็บเกี่ยว อายุประมาณ 31 - 40 ปี ประสบการณ์ที่หนาแน่นของคุณกำลังเบ่งบาน คุณต้องเก่งหรือเชี่ยวชาญในเรื่องใดเรื่องหนึ่งเป็นอย่างน้อย และนำมันมาใช้ประโยชน์ให้ได้มากที่สุด
หลังจากคุณบ่มเพาะความสามารถ และเก็บเกี่ยวประสบการณ์ที่มีคุณค่าอย่างเต็มเปี่ยมแล้ว ถึงเวลาที่คุณต้องใช้ความสามารถของคุณ ต่อรองกับ ตำแหน่งอาชีพ และผลตอบแทน เพื่อสร้างรายได้ ช่วงอายุนี้โดยทั่วไป เหล่ามนุษย์เงินเดือน มักเริ่มแต่งงานและมีครอบครัว นั่นยิ่งทำให้เป็นช่วงเวลาสำคัญที่คุณต้องวางแผนสร้างความมั่นคงและความมั่งคั่ง เพื่อครอบครัวของคุณ หรือรากฐานใดๆ ที่คุณให้ความสำคัญ ดังนั้นเก็บเกี่ยวรายได้ให้มากที่สุด จากความสามารถของคุณ คุณยังคงต้องให้ความสำคัญกับการทำงานมากที่สุดจากสัดส่วนทั้งหมด แต่ต้องจัดสรรมาดูแลสุขภาพ และให้ความสำคัญด้านความสุขทางใจเพิ่มเติมบ้าง เพราะความเครียดและความกังวลใจ มักส่งผลต่อสุขภาพโดยตรง และวัยนี้ ร่างกายจะเริ่มแสดงความเจ็บป่วยเพิ่มขึ้นโดยชัดเจน คุณควรจะต้องมองหาอาหารเสริม หรือตัวช่วยต่างๆ เพื่อดูแลสุขภาพของคุณ และอย่าลืมที่จะตรวจสุขภาพเป็นประจำ เพื่อรับมือกับความร่วงโรยนี้
3.ช่วงเดินทางอย่างมั่นคง อายุประมาณ 41 - 55 ปี คุณกำลังเจนจัดในทุกมิติของความสามารถ ความเชี่ยวชาญในการทำงาน ความเข้มแข็งทางจิตใจในการรับมือเรื่องราวต่างๆ
ในขณะที่สุขภาพกำลังถดถอยความสามารถของคุณก็เพิ่มขึ้นมาเรื่อยๆ ในช่วงชีวิตนี้คุณจึงควรมองหาการงานที่มั่นคงจากความเชี่ยวชาญของคุณ ที่ไม่วุ่นวายมากเกินไปจนสูญเสียการควบคุมและความสามารถในการจัดสรรเวลาของตัวเองได้ และแน่นอน ครอบครัวของคุณอาจจะมีความสำคัญสูงสุดในช่วงเวลานี้ ลูกที่กำลังจะเรียนหนังสือ และพ่อแม่ของคุณที่กำลังชราภาพ การจัดสรรเวลาของคุณในช่วงนี้ จึงมักมีเรื่องเหล่านี้เข้ามาทำให้สัดส่วนเปลี่ยนไปมากขึ้น หากคุณสะสมความสามารถในการทำงานมาอย่างเพียงพอ คุณจะสามารถต่อรองกับอาชีพของคุณได้ ว่าคุณต้องการจะออกแบบการใช้ชีวิตของคุณอย่างไร และเขาจำเป็นต้องยอมคุณจากความสามารถของคุณที่มองหาจากคนอื่นไม่ได้ นี่คือผลผลิตของความพยายามแลทุ่มเทของคุณตลอดช่วงชีวิตที่ผ่านมา ที่สำคัญคือ นอกจากจะดูแลสุขภาพแล้ว อย่าลืมวางแผนทางการเงินของคุณให้พร้อมก่อนเข้าสู่วัยเกษียณ
4.ช่วงพักผ่อนและใช้ชีวิตให้ช้าลง 56 ปีขึ้นไป คือวัยเตรียมเกษียณ รักษาสุขภาพและเติมความสุขให้เพียงพอ
ถ้าหากคุณไม่เคยวางแผนชีวิตมาเลย วัยนี้ของคุณจะเป็นวัยที่คุณกังวลที่สุด เพราะเวลาในการทำงานที่น้อยลงทุกที จะทำให้ความสั่นคลอนด้านรายได้ของคุณเพิ่มมากขึ้น และคุณจะใช้ชีวิตบนความเครียดมากกว่าที่เคยเป็นมา ในทางกลับกันหากคุณวางแผนมาเป็นอย่างดี คุณจะสามารถเกษียณได้อย่างสบายใจ การทำงานในช่วงนี้ของคุณกำลังจะเบาบางลง องค์กรต่างๆ มักจะวางบทบาทหน้าที่กับคนวัยนี้ ให้เป็นผู้เชี่ยวชาญที่คอยถ่ายทอดวิชาความรู้ให้กับรุ่นน้องๆ เพื่อสืบทอดประสบการณ์ต่อไป ดังนั้นความกดดันในงานจะไม่รุนแรงเท่าช่วงชีวิตที่ผ่านๆมา คุณสามารถจัดสรรเวลาชีวิต ลดสัดส่วนเวลางาน และมีความสุขไปกับเรื่องอื่นๆ ได้เพิ่มขึ้น
การออกแบบความสมดุลชีวิต ไม่มีถูกหรือผิด อยู่ที่ว่าเราชื่นชอบแบบไหนแต่ที่สำคัญ ต้องสมเหตุสมผลจากเหตุและปัจจัยที่สอดคล้องกัน น้องจบใหม่บางคน เริ่มต้นชีวิตการทำงานด้วยการตั้งปณิธานว่า จะไม่ทำงานเกิน 8 ชั่วโมง นั่นก็ไม่ใช่เรื่องผิดอะไร ถ้าเราตั้งใจจะใช้เวลาไปกับสิ่งที่มีประโยชน์อื่นๆ แต่ถ้าเราจัดสรรเวลาทั้งหมดไปกับเรื่องพักผ่อน ก็ต้องยอมรับว่าคนจำนวนมากกำลังเร่งพัฒนาตัวเองในขณะที่เรากำลังอยู่ที่เดิม...
บทสรุปของ Work life balance คือ ไม่ใช่การแบ่งเวลาที่เท่ากัน แต่เป็นเรื่องของการให้เวลาในแต่ละช่วงชีวิตที่ต่างกัน แล้วแต่เรื่องที่เราให้ความสำคัญในช่วงเวลานั้น เพราะข้อเท็จจริงของชีวิตก็คือไม่มีทางที่เราจะได้ทุกอย่างโดยไม่เสียอะไรเลยแม้แต่อย่างเดียว การจัดสรรเวลาเพื่อสิ่งหนึ่งย่อมทำให้เราต้องลดทอนเวลาจากสิ่งหนึ่งไปเช่นเดียวกัน อยู่ที่ว่า...มันคุ้มค่าสำหรับเราในเวลานั้นหรือเปล่า